วันอังคารที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2555

เทศกาลกินเจ

นิทานปล่อยสัตว์ ตอน สละเนื้อช่วยนก

        ในกาลก่อน เมื่อครั้งที่พระพุทธองค์ทรงดำรงพระชนม์อยู่บำเพ็ญโพธิสัตว์ธรรม ยังมิได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า วันหนึ่งได้ทรงทอดพระเนตรเห็นเหยี่ยวตัวใหญ่ที่ผอมโซ กำลังบินไล่จิกนกตัวเล็ก ๆ หมายจะกินเป็นอาหารวิหคน้อยหวาดกลัวเป็นอันมาก พยายามบินหนีเพื่อเอาชีวิตรอดจนสุดกำลัง ครั้นได้แลเห็นพระบรมโพธิสัตว์อยู่ไม่ไกลนกน้อยตัวนั้นจึงโผบินลงสู่หน้าอกของพระโพธิสัตว์ทันที พญาเหยี่ยวไม่กล้าติดตามเข้าไปใกล้ ได้แต่เฝ้าบินวนอยู่ไม่ไปไหน

เมื่อเป็นดังนี้พญาเหยี่ยวผู้หิวโหยจึงพูดขึ้นด้วยความโมโหว่า “ "ข้าแต่พระโพธิสัตว์เจ้า! พระองค์อยากช่วยนกตัวเล็ก ๆ และจะปล่อยให้ข้าพระองค์อดตายหรืออย่างไร”"

พระมหาโพธิสัตว์เมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ทรงยิ้มแล้วตรัสแก่พญานกว่า “ "ท่านประสงค์จะกินสิ่งใด เพื่อคลายหิวเล่า"

พญาเหยี่ยวได้ทูลตอบทันทีว่า “ "ข้าฯ พระองค์ อยากกินเนื้อเป็นอาหา

ปริศนากลอนคู่ "หนึ่งมื้อกินเจ หมื่นชีวิตรอดตาย"

เพื่อชีวิตคนทั้งหลาย

หนึ่งมื้อกินเจ คนที่กินเจวันละ "หนึ่งมื้อ" ก็สามารถบรรเทาโรคภัย หลีกเลี่ยงบาปเคราะห์ และคนที่ "มื้อหนึ่ง" กินแต่อาหารเจ จะส่งผลให้บุคคลนั้นมีสุขภาพแข็งแรง พลานามัยดีอายุยืนยาว สามารถตัดหนี้สินเวรกรรมไปได้

หมื่นชีวตรอดตาย หากคนแต่ละคนๆ คิดที่จะกินเจให้ได้เพียงวันละ "หนึ่งมื้อ" คนจำนวนนับหมื่น นับล้านในโลกก็จะรอดตาย ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานล้มตายไป เพราะโรคภัยร้ายแรงอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้

เพื่อสัตว์ทั้งหลาย

หนึ่งมื้อกินเจ คนที

พระโอวาทสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พระโพธิสัตว์กวนอิม เมตตา

ปล่อยสัตว์ทางปาก มหากุศลยิ่งใหญ่

พระโอวาทพระโพธิสัตว์กวนอิม...

พระโอวาทสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พระพุทธจี้กง เมตตา

        "ศิษย์ทุกคนลักษณะการเกิดของสิ่งมีชีวิตมีอยู่สี่แบบ เกิดจากครรภ์ เกิดจากไข่ เกิดในที่ชื้นแฉะ และเกิดผุดขึ้นเอง ชีวิตคือธรรมญาณ ให้ความสำคัญกับชีวิตจึงต้องคุ้มครองรักษา จึงต้องทะนุถนอมชีวิต ยิ่งต้องคุ้มครองรักษาทะนุถนอมธรรมญาณ อย่าทำร้ายสิ่งมีชีวิต เพราะว่าสัตว์เดรัจฉานถูกทำโทษโดยวิธีต่างๆ ให้มีขน มีเขา ดังนั้น จึงไม่ควรกินเขา ไปลงโทษเขาซ้ำเติม ถูกกินเป็นๆ ถลกหนังเป็นๆ ทำต้มทำแกงด้วยวิธีทรมานต่างๆ ไม่ว่าคนหรือสัตว์เดรัจฉาน ล้วนต่างมีธรรมญาณเดียว

บำเพ็ญธรรม จิตใจดี มีเมตตา กรุณา

      อาจารย์จะให้แนวทัศนคติกับเจ้าไว้ ผู้ที่บำเพ็ญโพธิสัตวธรรม ทุกครั้งที่เกิดจิตดำริจะต้องรักษาความสำนึกที่ดีงามไว้ ทุกหนทุกแห่งจะต้องเป็นหนึ่งเดียวกับสรรพสิ่ง

บางคนอาจจะอยากถามอาจารย์ว่า...สัตว์เดรัจฉานเหล่านี้ หากว่าเราไม่กิน มันไม่บินกันเต็มท้องฟ้าหรือ ?

อาจารย์จะบอกกับเจ้า หากเจ้าคิดว่า เป็ด ไก่ ปลา เกิด มาให้คนกิน ทว่าเสือก็กินคน อย่างนี้คนก็ต้องยอมให้เสือกินใช่หรือไม่ หรือยุงที่ดูดเลือดคน เจ้าก็ต้องเลี้ยงยุงไว้ดูดเลือดเจ้าใช่หรือไม่ ยุงกัดเจ้า เจ้าตบยุ

ข้อคิดพิจารณาธรรม ท่านพุทธทาสภิกขุ แห่งสวนโมกข์ สุราษฎร์ธานี

ทำไมเราจึงไม่ควรกินเนื้อสัตว์?

        เพราะเป็นการปฏิบัติเพื่อยึดเอาประโยชน์ทั้งฝ่ายโลกและฝ่ายธรรม การไม่กินเนื้อสัตว์เป็นทางก้าวหน้าของสัมมาปฏิบัติอย่างหนึ่ง ซึ่งได้ผลมาก โดยลงทุนทางวัตถุน้อยที่สุดแต่ให้ผลมากทางใจ

ประโยชน์ทางฝ่ายธรรม

ข้อที่ ๑ เป็นการเลี้ยงง่ายยิ่งขึ้น

       เพราะพวกพืชผัก เป็นของหาง่ายในหมู่คนยากจนเข็ญใจ ซึ่งมีการปรุงอาหารด้วยผักเป็นพื้น นักกินผักย่อมไม่มีเวลาไปกระวนกระวาย เพราะอาหารไม่ค่อยจะถูกปากถูกลิ้นนักเลย

ทรงยับยั้งการบูชายัญ ครั้นพระสิทธัตถะมหาโพธิสัตว์ยังเสด็จออกบวชเพื่อแสวงหาสัจจธรรม

        ในช่วงหนึ่งของการแสวงหาสัจจธรรม ขณะที่พระสิทธัตถะจะเสด็จไปยังชนบทอันเป็นที่พำนักของบรรดาฤาษีและนักบวชทั้งหลาย ระหว่างทางทรงทอดพระเนตรเห็นฝุ่นฟุ้งมาแต่ไกล พร้อมกับเสียงฝีเท้าสัตว์จำนวนมากกระทบกับพื้นดินครั้นเสด็จใกล้เข้าไปก็ทอดพระเนตรเห็นแพะและแกะฝูงใหญ่ออกมาจากกลุ่มฝุ่นอันฟุ้งขึ้นดุจเมฆนั้น ฝูงสัตว์ที่น่าสงสารกำลังถูกขับต้อนไปทางในเมือง ตอนท้ายปลายฝูงอันยาวยืดนั้นมีลูกแกะอ่อนตัวหนึ่งขาเจ็บเป็นแผลมีเลือดไห

เพลงพระโอวาทสิ่งศักดิ์สิทธิ์

บทเพลงพระโอวาท...ประทีปแห่งเมตตา

ประทานโดย : พระอาจารย์จี้กง ,ท่านเหอเซียนกูต้าเซียน, ชิงชิงเซียนหนวี่

ทำนองเพลง : จั่ง เซิง เสียง ฉี่

ปลดปล่อยมวลเพื่อนผู้ร่วมโลก คือหนทางก้าวมุ่งบำเพ็ญ เข้าออกเว้นซึ่งกรรมปาก อย่ามัวเขลาหากพลัดพรากเพื่อนให้จาก คร่าชีวีกรรมหรือเบาหวนดูทรมานเท่าใด

สัตว์หลั่งน้ำตาขอชีวี ไม่ใยดีทำได้ลงคอ แค่ลิ้มรสผลกรรมก่อผิดมหันต์ เพื่อนจิตญาณเพื่อนร่วมโลก แสนเศร้าโศกทำร้ายกัน นั้นคือดวงญาณ ใครรับกรรมกฎ

เปิดเมตตาให้สว่าง ไม่เลือนลางว่ายวน ก่อกรรมห

พระโอวาทสิ่งศักดิ์สิทธิ์พระโพธิสัตว์กวนอิม เมตตาประทานกล่อมเกลาผู้บำเพ็ญ

พระโพธิสัตว์กวนอิมเมตตาประทาน ณ สถานธรรมเหยินเต๋อ อ.เมือง จ.ลำปาง ๑ มิถุนายน ๒๕๔๕

        

          อย่าเบียดเบียนสัตว์เขากำลังชดใช้กรรม สิ่งหนึ่งที่ทำให้ท่านมานั่งประชุมร่วมกันอยู่ในวันนี้คือปลดปล่อยสรรพสัตว์ใช่หรือไม่ ? ปลดปล่อยเขาจากการเบียดบังทำร้ายและการเข่นฆ่าประหัตประหาร เพียงเพื่อบำรุงเลี้ยงตัวเราเพียงคนเดียว จิตที่ยิ่งใหญ่แห่งความเมตตาคืออะไร ? ...คือจิตใจที่ทนไม่ได้ที่จะเห็นเวไนยสัตว์ที่เต็มไปด้วยความทุกข์ทรม

พระโอวาทสิ่งศักดิ์สิทธิ์...อมตะพุทธจี้กง เมตตา

"อาจารย์ขอถือโอกาสนี้กล่าวย้ำกับพวกเจ้าอีกว่า หากบรรพชนของพวกเจ้าเสียชีวิต ในงานศพอย่าได้ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตหากฆ่าสัตว์ หนี้กรรมเหล่านี้บรรพชนจะต้องรับติดตัวไปด้วยเพราะว่าเป็นงานศพของบรรพชนจึงทำให้เกิดการฆ่า หนี้กรรมเหล่านี้ก็ต้องตกเป็นของท่าน

หากจัดงานศพบรรพชน ทางที่ดีที่สุดคือทำอาหารเจ สมาชิกในครอบครัวหากยังมิได้ชิงโข่ว(ตั้งปณิธานกินเจบริสุทธิ์)ครบทุกคน ก็ควรจะให้กินเจ ๔๙ วัน สามีภรรยาจะต้องแยกนอน ๔๙ วัน อย่างนี้จะช่วยลดหนี้กรรมของบรรพชนให้เบาลงได้

พระโอวาทสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เมตตาประทานกล่อมเกลาเวไนย์

หนึ่งในแปดเซียน...ท่านหลันไฉ่เหอ พุทธสถานไท่อิน ดาวคะนอง กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2542

"งดทำกรรมด้วยการงดกินสัตว์ เมื่อสักครู่นี้ท่านได้ฟังหัวข้ออะไร ?...(ความหมายของการทานเจ) คือความหมายของการไม่ทานเนื้อสัตว์ใช่หรือไม่ ?...( ใช่ )

        หากเราถามทุกๆ ท่านว่า...ในที่นี้ คนทุกคนล้วนทนไม่ได้ที่เห็นคนตกทุกข์ได้ยาก เมื่อเราเห็นเขามีชีวิต ท่านทนได้ไหมที่ต้องเห็นเขาตายไปต่อหน้า ?...(ทนไม่ได้) เมื่อเห็นเขาตกทุกข์ได้ยากเดือดร้อน ท่านทนได

พระโอวาทสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เมตตาประทานโดย...ขุนพลพิทักษ์ธรรมสถาน ท่านจางเฟยและท่านเย่เฟย

         เรามีคุณสมบัติเพียงพอแล้วหรือยัง ?...เข้าสู่ชั้นประชุมที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ สะเทือนถึงเบื้องฟ้า สนั่นทั่วเมืองพิภพมิใช่ง่าย ลองถามตัวเองดูว่า วันนี้เป็น "หยก" หรือจะเป็น "หิน" หากอยากจะเป็นหยกก็ต้องมุ่งมั่นและตั้งใจตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

ตั้งปณิธานกินเจ(ชิงโข่ว)แล้ว จิตใจสะอาดบริสุทธิ์หรือยัง กายใจสำรวมหรือไม่ ความคิดเที่ยงตรงหรือยัง ? ก้าวหน้าแค่ไหนทั้งกายและใจ ลองถามตัวเองว่าการกระทำกับจิตใจสอดคล้องก

ใจเด็ดเดี่ยวยอมสละรสโอชา                เมื่อรู้ว่าชีวิตนี้มีหนี้กรรม

                                                  ผันชีวิตตัดความอยากสร้างบุญนำ                ตรวจตราย้ำซื่อสัตย์ตนจึงพ้นภัย

                                                                                  เราคือ...

วันหนึ่งในฤดูร้อน พญาหงส์สีขาวสะอาดตัวหนึ่ง บินนำฝูงผ่านพระอุทยานของพระเจ้ากรุงกบิลพัสดุ์ บ่ายหน้าไปทางทิศเหนือสู่ถิ่นพำนัก ณ ยอดเขาหิมาลัยอันไกลโพ้น ความขาวของฝูงหงส์ซึ่งทาบอยู่บนท้องฟ้าสีคราม ดูประหนึ่งทางช้างเผือก ยังความนิยมยินดีให้แก่ผู้ที่ได้พบเห็นยิ่งนัก แต่สำหรับพระเทวทัตกุมารมิได้เป็นเช่นนั้น น้ำพระทัยของเจ้าชายองค์น้อยนี้ เป็นพาลเหี้ยมโหดมุ่งแต่จะทำลายเป็นที่ตั้ง พอทอดพระเนตรเห็นฝูงหงส์ เธอก็ทรงยกลูกศรขึ้นพาดสาย น้าวคันธนูจนเต็มแรงยิงออกไปทันที ลูกศรนั้นวิ่งขึ้นไปถูกพญาหงส์สีขาว ซึ่งกำ

นิทานชาดก...มตกภัตตชาดก - การฆ่าสัตว์เซ่นไหว้บรรพบุรุษ จักยังผลเช่นไร ?

                                                                                                 ถึงเป็นสัตว์ก็รู้จักรักชีวิต

                                                                                     สู้สุดฤทธิ์หากใครไล่เข่นฆ่า

                                                                                     นึกดังนี้ให้มีจิตคิดเมตตา

เอาใจเขามาใส่ใจเรา - พระโอวาทพระพุทธจี้กง เมตตาประทานกล่อมเกลาผู้บำเพ็ญธรรม

        ถ้าหากว่าวันนี้คือจุดเริ่มต้น ถ้าตั้งแต่เริ่มต้นจนสุดท้ายสบายไปตลอดทาง ฝั่งตรงข้ามคืออะไร ?...

"สมัยที่เราตกปลาอยู่ริมน้ำ เบ็ดตกปลาที่เราใช้นั้นเป็นเส้นตรง เรามิได้มีเจตนาที่จะตกปลา แต่เราต้องการตกเจ้านครรัฐ เราต้องการจะตกพระเจ้าเหวินหวัง เพราะเหตุใดเล่า ? ก็เพราะว่าบัญชาสวรรค์ประสงค์ให้เป็นเช่นนั้น สายทองต้องสืบทอด หากว่าพระเจ้าเหวินหวังขาดจริยธรรมต่อชนเบื้องล่าง เป็นบุคคลที่ขาดคุณธรรมแล้ว พระองค์จะทรงสำเร็จพระกรณียกิจที่ยิ่งใหญ่ได้อย่างไร หากปราศจากพระทัยที่กว้างขวางแล้ว พระองค์จะทรงเป็นประมุขของแผ่นดินได้อย่างไร ใช่หรือไม่ ?…"

..........................................................

ถือศีลกินเจ

        อนุโมทนา สาธุการ ท่านกินเจ

ไม่รวนเร แม้สิบวัน สั้นสั้นนี้

ชำระกาย คุมใจได้ ในช่วงปี

ก็ยังดี สักสิบวัน ท่านตั้งใจ

       เราถือศีล กินพืชผัก เพราะรักตัว

เราก็กลัว ถูกเชือดเฉือน เหมือนหมูหมา

ไม่อยากให้ หนี้เวรกรรม ตามทันมา

จึงขอลา มุ่งหาผัก สักสิบวัน

      ชั่วสิบวัน ท่านก็รู้ ดูสดใส

ทั้งกายใจ ไม่หมักหมม อมกลิ่นสัตว์

ไม่ต้องหวั่น วิญญาณเขา มาเร่งรัด

เขาอาฆาต เราอาจตาย ไม่รู้ตัว

      พ้นสิบวัน ท่านได้โปรด อดไว้ก่อน

อย่าเร่งร้อน รีบ " กินชอ " ชะลอไว้

ผักเป็นยา รัก

"ใครหนอว่าหลักธรรมแห่งสากลโลก (หรือที่ทุกวันนี้คนทั้งหลายนิยมเรียกว่า "กฎแห่งกรรม") ไม่มีการตอบสนองนะก็ดูพวกสัตว์สี่ชนิดนั้นเถิด วัว ม้า ไก่สัตว์ปีก ปลา แมลง ยุง ตัวหนอนนั้น ชาติก่อนต่างก็สร้างเหตุต่างๆ ซึ่งไม่เหมือนกันดังนั้นชาตินี้จึงมีรูปร่างลักษณะแตกต่างกันไป คนเป็นสิ่งที่มีค่าสูงยิ่งในบรรดาสรรพสิ่งที่มีชีวิตทั้งหลายในแดนมนุษย์ที่เรียกว่า "บ่วง" (สัตว์ประเสริฐ หรือสิ่งประเสริฐแห่งนานาพันธุ์) ต้องถนอมรักษาบุญวาระที่เกิดมาเป็นมนุษย์ จงรีบแสวงหาธรรมบำเพ็ญศีลและก็ปลอบเตือนสัตว์สี่ชนิดที่เรียกอยู

เมตตาธรรม

ความเมตตาของปุถุชนมิได้เกิดจาก ธรรมญาณ หรือ ความเป็นกลาง ย่อมมีเงื่อนไข กาลเวลา ชนชั้น และต้องการค่าตอบแทน เพราะเหตุนี้คำกล่าวที่ยีนยันความจริงข้อนี้จึงมีอยู่ว่า

" ยามรักน้ำต้มผักยังว่าหวาน ยามชังแม้น้ำตาลยังว่าขม "

เมตตาของปุถุชนจึงเป็นสิ่งจอมปลอม เมื่อสิ้นเหตุปัจจัยย่อมหมด "เมตตา" ได้ง่าย ๆ ด้วยเหตุนี้จึงกล่าวได้ว่าปุถุชนไร้เมตตา มีแต่ความเห็นแก่ตัว จึงก่อทุกข์สถานเดียว

เมตตา เช่นนี้จึงไม่อาจค้ำจุนโลก มีแต่ทำลายโลกและทำลายตนเอง ปุถุชนจึงทำสิ่งที่ตรงกันข้ามปากพูดอย่างหนึ่ง แต่กร

พระโอวาทสิ่งศักดิ์สิทธิ์เมตตา - พระพุทธจี้กงเมตตาประทานพระโอวาทกล่อมเกลา ความว่า...

"โปรดตนเองให้เป็นพระ"

พระโอวาทพระโพธิสัตว์กวนอิมเมตตาประทาน

        ถึงแม้นเรา(พระโพธิสัตว์กวนอิม)จะมีความตั้งใจโปรดสัตว์ก็ตาม แต่ผู้คนหลงระเริง ไม่ยอมตัดความอยากมาฝึกฝนตัว ดังนั้นยิ่งจมยิ่งลึก ทะเลทุกข์ไหลไปเรื่อยๆ หลงอยู่ในทางสามแพร่ง ไม่อาจสำเร็จเป็นพระพุทธะได้ มีคำกล่าวว่า "พระไม่สามารถโปรดคนได้ คนต่างหากที่จะโปรดตนเอง" เพื่อหนังสือ "วงเวียนกรรมของสัตว์โลก" จึงจะแนะทาง "โปรดตนเองให้เป็นพระ"

ตั้งแต่ไหนแต่ไรมา ผู้คนในโลกนี้ชอบกินเนื้อผู้อ่อนแอกว่า คนชอบแก่งแย่งกัน สัตว์เดรัจฉานก็เช่นเดียวกั

ความเจ็บปวดของสัตว์ โดย ลี่อี้เจ๋ง

1.

โอวาทพญามาร อาซิวหลัวหวัง

ชั้นชิงโข่วปัน วันขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือน ๔ พ.ศ.

เพลงพระโอวาทสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พระโพธิสัตว์กวนอิม...เมตตาประทานกล่อมเกลามวลเวไนยสัตว์

            บาปบุญ เหมือนเงาต้องทนรับกรรม จองจำร่างกายหมดสิทธิ์เสรี ดวงญาณทุกดวงที่มี รับมาจากองค์มารดา  ถึงแม้ถือเกิดต่างกันมังสา กายาล้วนมีความทุกข์ทั้งปวง สัตว์โลกต่อสู้ดิ้นรน มิยอมให้ใครกลืนกาย

           อาฆาตทุกคนที่มาทำลาย ด้วยใจประกาศ ความแค้นไร้วันสลาย เนื้อเลือดกระดูก เสพสุขที่กลืนลงไป ร้องครวญ นั้นหมายถึงคร่าชีวี เมตตาถึงคราที่ต้องฟื้นฟู บำเพ็ญเลิกโลภลาภปากทุกคน จิตญาณฉันจึงสูงส่ง ต้องเริ่มจากการทานเ

พระโอวาทพระพุทธจี้กง เมตตาประทาน

        ที่จริงคนที่ถือศีลไม่กินเนื้อสัตว์ ก็เพื่ออโหสิกรรมให้กับสัตว์วิธีหนึ่ง ยิ่งมีใจเมตตากรุณาเป็นเพื่อนที่ดี ผู้ถือศีลไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตไม่รับเนื้อ สวดมนต์ไหว้พระทุกๆวัน แผ่ส่วนกุศลไปยังสัตว์เดรัจฉานจะได้ลดโทษลง

ด้วยวิธีนี้ชีวิตสัตว์ก็ได้รับความช่วยเหลือจากผู้ถือศีล ไม่เพียงแต่ลดโทษยังได้บรรลุธรรมอีกด้วย สามารถพ้นจากความทุกข์ทรมารได้เร็วขึ้น ทำไมต้องกินเนื้อที่มีบาปโดยไม่คาดคิด เราก็ไปแปดเปื้อนบาปด้วย ยังทำให้บุญกุศลที่มีอยู่ลดน้อยลงไป ไม่มีทางได้กินฟรีหร

สรรพสัตว์ทั้งหลายล้วนมีพุทธจิต - ชีวิตใครใครก็รัก พึงละกรรมปาก ถือศีลกินเจ เทอญ

           เรื่องราวของลูกควายน้อยที่หนีเอาชีวิตรอดจากความตายซึ่งเป็นสิ่งมีพึงยินยอมพร้อมใจมิพึงประสงค์จักได้รับผลแห่งความตายนั้น ได้สะท้อนปลุกจิตสำนึกคุณธรรมอันมีเต็มเปี่ยมแต่เดิมอยู่แล้วในธรรมญาณเดิมแท้ที่สถิตอยู่ในกายเนื้อของเรา ซึ่งเพียบพร้อมทั้ง เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา และคุณธรรมอันคัมภีรภาพสมบูรณ์พร้อม

ภาพเหตุการณ์หนีความตายของลูกควายน้อย ที่กำลังจะถูกฆ่าเพื่อนำไปเป็นอาหารให้กับมนุษย์อย่างเราๆได้ลิ้มรสด้วย

เหตุต้นผลกรรม จอมจักรพรรดิ "เหลียง บู่ ตี้" (เหลียงอู่ตี้)

         มีตำนานเล่าขานสืบต่อกันมาแต่ครั้งโบราณกาลว่า ณ วัดใหญ่แห่งหนึ่งมีพระเณรมาพำนักอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากจนต้องแบ่งกุฏิที่พำนักออกเป็น 2 ฝ่าย คือ หอจำวัตรตะวันออกและหอจำวัตรตะวันตก

เล่ากันมาว่าใกล้ๆกับหอจำวัตรตะวันออกในวัดแห่งนี้เองมีไส้เดือนประหลาดตัวหนึ่งอาศัยอยู่ ทุกๆวันตอนเช้าเมือได้ยินเสียงพระเณรสวดมนต์และแสดงพระธรรมเทศนาไส้เดือนประหลาดตัวนี้ก็จะเลื้อยออกจากรูมาฟัง นานวันเข้ามันจึงมีจิตญาณที่สูงกว่าสัตว์เดรัจฉานเลื้อยคลานธรรมดา

สัพเพสัตตา - ชีวิตมีค่ากว่าสิ่งไหน  ละกรรมปาก กินเจเว้นกรรม

ประพันธ์โดย พระสมบูรณ์อนาลโย

          เสียงร้องขอชีวิตจิตหวาดหวั่น เสียงห้ำหั่นเข่นฆ่าน่าสยอง

เสียงซวบซาบคมดาบเชือดเลือดไหลนอง เสียงกรีดร้องสะท้านจิตสะกดใจ

เสียงสัพเพสัตตาพาให้คิด  ว่าชีวิตนี้มีค่ากว่าสิ่งไหน

อเวราอย่ามีเวรอย่ามีภัย ชีวิตใครใครก็หวงอย่าล่วงเกิน

         ท่องสัพเพสัตตามาแต่ไหน ยังเข้าใจเนื้อแท้แค่ผิวเผิน

ยังฆ่าบ้างกินบ้างอย่างเพลิดเพลิน ยังใช้เงินซื้อชีวิตอนิจจา

สัตว์เกิดกายมาใช้กรรมที่ทำไว้ เป็นเป็ดไก่กุ

เพลงพระโอวาทสิ่งศักดิ์สิทธิ์เมตตาประทาน กล่อมเกลาเวไนย์

เมตตาประทานโดย พระพุทธจี้กง

เพลง ต่างกันในกาย

ทำนอง แพ้ใจ

กักและขังชีวิตฉัน มันเจ็บเกินและทุกข์แท้ ถูกบางคนรังแก โดยไม่แคร์และไม่สน กระหายจนชินชา ไม่มองไม่ฟัง ด้วยหวังให้เข้าใจในน้ำตา

กี่ชีวิตต้องชดใช้ และต้องตายมากนักหนา เกิดเวียนตายทรมาน ร่างแบ่งเป็นซีกแขนขา ไม่สนใจใยดี มองว่าไม่มีค่า ศึกษาพระธรรมาจึงเข้าใจ

# ประกาศความแค้น เลือดเนื้อไหนใครก็รัก เจ็บปวดใจนัก พี่น้องกลืนกินอย่างโหดร้าย ชะตาชีวิตผกผันลุ่มหลงต่างกันในกาย ญาณแท้ใจเดิมย

ปริศนาธรรมอักษรเจ "齋" - กินเจ เว้นกรรม

ตัวอักษรภาษาจีนนับเป็นสมบัติอันล้ำเลิศทางวัฒนธรรมของแดนมังกร นับเป็นประดิษฐ์กรรมอันยิ่งใหญ่ที่ห้าของจีน นอกเหนือไปจากสิ่งประดิษฐ์อันยิ่งใหญ่ทั้งสี่ (จตุรประดิษฐ์) เข็มทิศ ดินปืน กระดาษ และการพิมพ์

การขีดเขียนอักษรจีนแต่ละเส้นซึ่งผ่านการออกแบบมาอย่างลึกซึ้ง จึงเปรียบเสมือนการสัมผัสกับภูมิปัญญาที่ส่งทอดมาจากบรรพบุรุษ คราวนี้จะต่างกันเพียงแต่ว่า ผู้คนจะสามารถถอดรหัสที่แฝงอยู่ในเส้นสายอักษรต่างๆ นั้นได้เพียงใด

และหากภาพหนึ่งภาพ แทนคำนับพัน อักษรจีน " 齋 - เจ"

เพลงพระโอวาทสิ่งศักดิ์สิทธิ์ กินเจ เว้นกรรม

เมตตาประทานโดย : พระสงฆ์จี้กงวิปลาส

ทำนอง : เก็บรักไว้ที่ปลายรุ้ง

ประทานไว้เนื่องในโอกาสประชุมธรรม ๒ วัน ณ ไท่จง จ.กรุงเทพฯ

วันอาทิตย์ที่ ๑๗ กรกฎาคม พ.ศ๒๕๕๔

เข้าประชุมธรรมถึงรู้ความหมาย ชีวิตแท้ว่ามีค่าเพียงใด ความโง่เขลาอันผิดบาปหยาบร้าย จึงได้ทำลายชีวิตใครใคร เมื่อมีดกรีดลงเจ็บร้าวถึงใจ เจ้าไม่เข็ดเช็ดเลือดคาวกระเซ็น น่าเวทนามัจจุราชแลเห็น เมื่อถูกฆ่าว่าจงเป็นสุกเอ๋ย

* เมตตารักด้วยแสงธรรม ค้ำจุนโลกด้วยเมตตา บำเพ็ญถือศีลภาวนา บังเกิดแท้จิตกุศล

ความหมายของตัวอักษรเนื้อในภาษาจีน - กินเจ เว้นกรรม

ตัวหนังสือ “เนื้อ” ในภาษาจีน แท้จริงมีอักษรคำว่า “คน” อยู่สองคน อยู่ในประตุหนึ่งคนอีกคนอยู่นอกประตูที่เปิดกว้าง ในทางธรรม “ปาก” ก็คือประตูหนึ่งของร่างกายเป็นอวัยวะรับ-จ่าย ที่ใช้กินอาหารเข้าไปและพูดออกมา ฉะนั้นคำว่า “เนื้อ”จึงมีความหมายว่า เป็นของที่คนหลงไม่รู้อ้าปากกินเข้าไปหารู้ไม่ว่าที่แท้คือ “คนกินคน” “ชาตินี้กินเนื้อเขา ชาติหน้าก็ต้องถูกเขากิน” พระพุทธวจนะ ในมหายานสูตรกล่าวว่า “บุคคลใดงดเว้นจากการกินเลือดกินเนื้อสัตว์ทั้งปวง ย่อมกระทำมหาเม

เสียงอหิงสาธรรม - กินเจเว้นกรรม

            ข้าพเจ้าได้มาเห็นหนังสือ "เสียงอหิสาธรรม" เล่มนี้เข้าซึ่งพิมพ์มาจากฮ่องกง รู้สึกว่าผู้วาดภาพ วาดและบรรายาภาพได้อย่างสมเหตุสมผล ซึ่งสามารถที่จะทำให้ผู้อื่นเห็นซึ้งถึงแห่งความทุกข์ทรมานของสัตว์โลกได้ อันจะเป็นปัจจัยเหตุบังเกิดจิตเมตตาสงสารขึ้น ฉะนั้นจึงเห็นว่าหนังสือเล่มนี้จะเป็นเครื่องตาเตือนใจ และบางทีอาจจะระงับการเข่นฆ่าสัตว์ได้ไม่มากก็น้อย อันจะเป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติต่อศีลข้อปาณาได้อย่างบริสุทธิ์ เพื่อเป็นการเผยแพร่ศีลธรรมในข้อนี้ให้กว้างขวางยิ่ง

มนุษย์จัดอยู่ในตระกูลสัตว์กินพืช หรือ กินเนื้อ

จากผลการศึกษาและวิจัย ของวงการแพทย์ที่มีชื่อเสียงในแต่ละประเทศทั่วโลก ว่าด้วยเรื่องโครงสร้างด้านกายภาพของมนุษย์พบว่า อวัยวะหลายส่วน เช่น ตา หู จมูก ลิ้น เล็บมือ เล็บเท้า ฟัน กระดูกส่วนคางและฟันกราม มีโครงสร้างที่คล้ายคลึงกับสัตว์กินพืชมากที่สุด

ฟันของมนุษย์ทำหน้าที่ บดและเคี้ยว อาหารซึ่งมีคุณลักษณะที่แตกต่างไปจาพฟันของสัตว์กินเนื้ออย่างเห็นได้ชัด สัตว์กินเนื้อจะมีฟันที่แหลมคม ใช้ทำหน้าที่ฉีกกัดเนื้อ แต่ไม่สามารถบดชิ้นเนื้อให้ละเอียดได้ มันจะกลืนอา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น